ญญาประดิษฐ์ (AI) ได้ยึดครองโลกอย่างกับพายุโหมกระหน่ำ ตั้งแต่การวางแผนการเดินทางในต่างประเทศของคุณไปจนถึงการสโลแกนสุดสร้างสร้างสรรค์สำหรับแคมเปญการตลาดของคุณ และให้การวิจัยเชิงลึกสำหรับการลงทุนครั้งต่อไปของคุณ AI ซึ่งดูเหมือนจะสามารถทำได้ทั้งหมด
ในโลกการเงินก็ไม่แตกต่างกัน ตอนนี้เราได้เห็นการใช้ปัญญาประดิษฐ์ (AI) ในการซื้อขาย เนื่องจาก AI นั้นพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ตอนนี้เทรดเดอร์มีเครื่องมือและวิธีการใหม่ ๆ ที่จะช่วยพวกเขาซื้อขายในทุก ๆ วัน
ในบทความนี้เราจะดำน้ำว่า AI เปลี่ยนภูมิทัศน์การซื้อขายอย่างช้าๆและวิธีการใช้งาน
AI ช่วยเปลี่ยนโลกของการซื้อขายได้อย่างไร
ไม่ต้องสงสัยเลยว่า AI ได้เปลี่ยนโลกและประสบการณ์การซื้อขายของทั้งเทรดเดอร์มือใหม่และเทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์
ประการแรก AI สามารถใช้เพื่อดึงข้อมูลจำนวนมากและสามารถให้ข้อมูลสรุปแก่เทรดเดอร์ งานที่ใช้เวลานานก่อนหน้านี้สามารถทำได้แทบจะในทันทีด้วยความช่วยเหลือจาก AI
เพียงแค่ดูตัวอย่างนี้:
นอกจากนี้ การวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ซึ่งโมเดล AI สามารถคาดการณ์การเคลื่อนไหวของตลาดโดยอิงจากข้อมูลในอดีตที่ผ่านมา กำลังเปลี่ยนแปลงการซื้อขายไปในทางที่ดี การคาดการณ์นี้สามารถช่วยให้เทรดเดอร์มีความคิดที่ดีขึ้นเกี่ยวกับความเคลื่อนไหวของตลาดในอดีต และนำทางสถานการณ์ในอนาคตได้ดียึ่งขึ้น
ด้วยความช่วยเหลือของ AI การซื้อขายสามารถเป็นไปโดยอัตโนมัติตามกฎหรือสถานการณ์ ทำให้การซื้อขายสามารถดำเนินการได้ในเวลาที่เหมาะสมและลดข้อผิดพลาดของมนุษย์
AI จะใช้สำหรับการซื้อขายได้อย่างไร?
นี่คือ 4 วิธีที่เทรดเดอร์สามารถใช้ AI ในการซื้อขายรายวัน:
Machine Learning และการวิเคราะห์เชิงทำนาย
- Machine Learning เป็นส่วนหนึ่งของ AI ที่ได้สร้างการเปลี่ยนแปลงอย่างมากในโลกแห่งการซื้อขายและที่อื่น ๆ จริง ๆ แล้วนั้น Machine Learning คือกระบวนการฝึกอัลกอริธึมเพื่อเรียนรู้และตัดสินใจตามข้อมูล แทนที่จะทำตามคำแนะนำที่ตั้งโปรแกรมไว้อย่างเคร่งครัด ความสามารถในการเรียนรู้แบบไดนามิกนี้ช่วยให้ Machine Learning สามารถปรับเปลี่ยนและปรับปรุงเมื่อเวลาผ่านไปเมื่อพบกับข้อมูลใหม่
- AI สามารถวิเคราะห์และสแกนผ่านชุดข้อมูลจำนวนมหาศาลผ่านการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ได้ในระยะเวลาอันสั้นกว่าคนปกติ ความสามารถในการให้ข้อมูลสรุปที่รวดเร็วกว่าเมื่อเทียบกับการวิเคราะห์ด้วยตนเอง ช่วยให้เทรดเดอร์ประหยัดเวลาและตัดสินใจโดยมีข้อมูลดีขึ้น
- โดยทั่วไปแล้ว คนทั่วไปต้องใช้เวลาพอสมควรในการระบุรูปแบบปกติโดยพิจารณาจากข้อมูลในอดีตและรูปแบบกราฟการซื้อขาย ซึ่งอาจต้องใช้เวลาหลายปีในการสั่งสมประสบการณ์แต่สามารถทำให้ง่ายขึ้นด้วย Machine Learning และยังสามารถใช้เพื่อคาดการณ์ความเคลื่อนไหวของตลาดผ่านอัลกอริธึมได้อีกด้วย
- เมื่อมีข้อมูลเพิ่มมากขึ้น บทบาทของ Machine Learning ในการวิเคราะห์เชิงคาดการณ์ในการเทรดจึงมีความสำคัญมากขึ้น การวิเคราะห์ข้อมูลแบบดั้งเดิมอาจเกิดข้อผิดพลาด เนื่องจากมีรูปแบบที่ละเอียดอ่อนหรือถูกครอบงำด้วยปริมาณข้อมูลที่แท้จริง
- ในทางตรงกันข้าม Machine Learning ประสบความสำเร็จในสถานการณ์เหล่านี้ โดยการปรับปรุงโมเดลอย่างต่อเนื่องเพื่อความแม่นยำที่ดีขึ้น ด้วยการควบคุมข้อมูลตลาดในอดีต ตัวชี้วัดทางเศรษฐกิจในปัจจุบัน และแม้แต่การวิเคราะห์ความรู้สึกของโซเชียลมีเดีย อัลกอริธึมของ Machine Learning สามารถระบุรูปแบบที่เกินความสามารถในการประมวลผลของมนุษย์ได้
การซื้อขายอัลกอริทึม
- การซื้อขายอัลกอริทึมเกี่ยวข้องกับการใช้อัลกอริทึมที่ซับซ้อนเพื่อส่งคำสั่งซื้อขายด้วยความเร็วและความถี่ที่มนุษย์ไม่สามารถทำได้ ความสามารถนี้จะช่วยให้เทรดเดอร์ใช้ประโยชน์จากราคาที่คลาดเคลื่อนเล็กน้อยจากการซื้อขายหลายครั้งในระยะเวลาอันสั้น
- Bot เทรดและอัลกอริธึมการซื้อขายของ AI สามารถสแกนแผนภูมิจำนวนมากอย่างรวดเร็วเพื่อระบุเงื่อนไขที่เอื้ออำนวย เมื่อตรวจพบเงื่อนไขเหล่านี้แล้ว AI เหล่านี้สามารถส่งและดำเนินการคำสั่งซื้อขายจำนวนมากได้ภายในไม่กี่วินาที สิ่งที่ทำให้ระบบที่ขับเคลื่อนด้วย AI เหล่านี้แตกต่างจากการซื้อขายอัลกอริทึมแบบดั้งเดิม ก็คือความสามารถในการปรับตัว AI สามารถเรียนรู้จากพฤติกรรมของตลาดและปรับแต่งกลยุทธ์อย่างต่อเนื่อง เพื่อให้มั่นใจถึงประสิทธิภาพแม้ในขณะที่สภาวะตลาดเปลี่ยนแปลงไป
- นอกจากนี้ ด้วยการใช้ AI ในการซื้อขาย ยังช่วยให้เทรดเดอร์สามารถลดอารมณ์ความรู้สึกเมื่อตัดสินใจซื้อขายได้ การใช้ระบบการซื้อขายอัตโนมัติอาจทำให้ข้อกำหนดในการตรวจสอบลดลงเนื่องจากไม่มีการแทรกแซงของมนุษย์ อย่างไรก็ตาม นี่อาจเป็นดาบสองคมได้ เนื่องจากบางครั้ง AI มีศักยภาพในการตัดสินใจซื้อขายที่ไม่ดี และยังไม่มีข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับวัตถุประสงค์การซื้อขายของคุณหรือสถานการณ์ทางการเงินในปัจจุบัน
- ตัวอย่างเช่น ในปี 2012 ความผิดพลาดทางคอมพิวเตอร์ในอัลกอริธึมการซื้อขายของ Knight Capital Group ส่งผลให้ขาดทุนมากกว่า 440 ล้านดอลลาร์ ส่งผลให้หุ้นของบริษัทดิ่งลงถึง 75% ในเวลาเพียงสองวัน1
Chatbots เปรียบเสมือผู้ช่วยส่วนตัว
- Chatbot เช่น ChatGPT สามารถช่วยเหลือเทรดเดอร์ในการซื้อขายได้ เทรดเดอร์สามารถสอบถามเกี่ยวกับประสิทธิภาพของหุ้นตัวใดตัวหนึ่ง วิเคราะห์แนวโน้มจากชาร์ตหุ้น และเข้าถึงข้อมูลหุ้นในอดีตได้โดยใช้คำสั่งข้อความที่ตรงไปตรงมา (หรือที่เรียกว่า prompts) แชทบอทเหล่านี้สามารถฝึกฝนด้วยข้อมูลแบบเรียลไทม์ และด้วยเทคนิค Machine Learning สามารถปรับปรุงเพื่อให้เทรดเดอร์ได้รับการตอบสนองที่แม่นยำยิ่งขึ้น
- จากความสามารถนี้ แชทบอทสามารถตั้งค่าให้อัปเดตข่าวสารได้ตลอด 24 ชั่วโมงในทุก ๆ วัน โดยการเชื่อมต่อแชทบอทกับ API แหล่งข่าวที่เชื่อถือได้ และใช้ระบบข้อมูลที่รวดเร็ว ด้วยวิธีนี้ แชทบอทจะมีความสามารถในการดึงและประมวลผลข้อมูลข่าวสารแบบเรียลไทม์หรือใกล้เคียงเรียลไทม์
- สิ่งนี้จะช่วยให้เทรดเดอร์ได้รับการอัปเดตอย่างรวดเร็วด้วยข่าวทางการเงินล่าสุด การเปลี่ยนแปลงของตลาด และกิจกรรมสำคัญระดับโลก ด้วยการอัปเดตที่รวดเร็วทำให้เทรดเดอร์สามารถใช้ความเข้าใจสภาวะตลาดเพื่อคาดการณ์การขึ้นและลงของตลาดได้ดีขึ้น ปรับกลยุทธ์การซื้อขาย และนำหน้าในการแข่งขัน
การประมวลผลภาษาแบบเป็นธรรมชาติ
- การประมวลผลภาษาแบบเป็นธรรมชาติ (NLP) เป็นเทคโนโลยีที่ใช้เพื่อช่วยให้ AI เข้าใจภาษามนุษย์ ช่วยให้ระบบ AI เช่น chatbots ตอบสนองได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อผู้ใช้พร้อมท์ซึ่งทำให้มั่นใจได้ว่าการสื่อสารที่เรียบง่ายและใช้งานง่ายขึ้นระหว่างเครื่องจักรและมนุษย์ สิ่งนี้สามารถใช้เพื่อช่วยให้เทรดเดอร์ตีความข้อมูลที่เป็นประโยชน์จากข้อมูลที่ให้ไว้ในการซื้อขาย
- NLP สามารถอ่านข่าว รายงานทางการเงิน และโซเชียลมีเดียอย่างรวดเร็ว เพื่อให้เทรดเดอร์เพื่อให้เทรดเดอร์ทราบถึงอารมณ์และแนวโน้มของตลาด นอกจากนี้ NLP ยังช่วยให้การซื้อขายเป็นแบบอัตโนมัติอีกด้วย เทรดเดอร์สามารถฝึกระบบ AI ของตนว่าต้องทำอะไรด้วยคำพูดง่าย ๆ และด้วย NLP ระบบจะเข้าใจและดำเนินการตามนั้น สิ่งนี้ทำให้การซื้อขายเป็นไปโดยอัตโนมัติมากขึ้นและเทรดเดอร์จะใช้เวลาน้อยลงในการตรวจสอบสถานะการซื้อขายของพวกเขา
- นอกจากนี้ ความสามารถในการปรับตัว และการเรียนรู้ของ NLP ได้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพราะเทคโนโลยีมีความก้าวหน้ายิ่งขึ้น NLP นั้นก็จะปรับให้มีความละเอียดของภาษาและคำศัพท์เฉพาะที่ใช้การในซื้อขายมากยิ่งขึ้น การปรับแต่งอย่างละเอียดนี้หมายความว่าเทรดเดอร์สามารถรับข้อมูลเชิงลึกที่แม่นยำและเกี่ยวข้องมากขึ้นเมื่อเวลาผ่านไป
ความเสี่ยงของการใช้ AI ในการซื้อขาย
ตอนนี้เราเข้าใจแล้วว่า AI สามารถใช้ในการซื้อขายได้อย่างไร ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ที่จะต้องเข้าใจความเสี่ยงบางประการที่อาจเกิดขึ้นเมื่อใช้ AI ในการซื้อขาย
ประการแรก เทรดเดอร์ต้องตระหนักว่า AI คือข้อมูลอิสระแบบขว้างขวาง ได้รับการเทรนเกี่ยวกับชุดข้อมูลหนึ่งเพื่อให้สามารถให้คำตอบหรือการวิเคราะห์แก่เทรดเดอร์ได้ ซึ่งหมายความว่า AI นั้นดีพอ ๆ กับชุดข้อมูลที่ได้ฝึกฝนมา หากข้อมูลที่ให้มาไม่ถูกต้อง ระบบ AI ก็จะได้รับผลกระทบอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกจากนี้ หากชุดข้อมูลไม่ได้รับการอัพเดตตามการเปลี่ยนแปลงของตลาด AI อาจสร้างกลยุทธ์การซื้อขายที่ไม่ตรงกับตลาดปัจจุบัน ซึ่งนำไปสู่ผลลัพธ์การซื้อขายที่ต่ำกว่ามาตรฐาน
ความเสี่ยงอีกประการหนึ่งของการใช้ AI ในการซื้อขาย คือการพึ่งพามากเกินไป เทรดเดอร์อาจเริ่มพึ่งพาการคาดการณ์ของ AI เกินไปโดยไม่อาศัยการวิเคราะห์หรือสัญชาตญาณของตนเอง ซึ่งอาจนำไปสู่การขาดวิจารณญาณในการซื้อขาย แม้ว่าโมเดล AI จะมีความสามารถ แต่ก็อาจไม่สามารถอธิบายการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างกะทันหันที่เกิดขึ้นเนื่องจากเหตุการณ์ระดับโลกที่ไม่คาดคิดได้
สุดท้ายนี้ AI ก็เหมือนกับโปรแกรมคอมพิวเตอร์อื่น ๆ บางครั้ง AI อาจเกิดบัคหรือข้อบกพร่อง ปัญหาเหล่านี้อาจมาจากข้อผิดพลาดในการเขียนโค้ด หรือวิธีที่ AI ทำงานร่วมกับซอฟต์แวร์อื่น ๆ โดยข้อผิดพลาดเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้ ก็อาจทำให้ AI ให้คำตอบที่ผิดหรือตัดสินใจผิดพลาดได้ สิ่งนี้อาจทำให้เทรดเดอร์ขาดทุนจากการตัดสินใจของ AI
บทสรุป
การมีความเข้าใจที่ดีขึ้นเกี่ยวกับความสำคัญของ AI และความเสี่ยงเมื่อพูดถึงการใช้ AI ในการซื้อขายถือเป็นสิ่งสำคัญสำหรับเทรดเดอร์ หากต้องการใช้ประโยชน์จากศักยภาพของ AI ในการซื้อขายอย่างเต็มที่ จำเป็นต้องมีความสมดุลระหว่างทั้งการซื้อขายด้วยตนเองและการซื้อขายอัตโนมัติ แม้ว่า AI จะนำเสนอเครื่องมือมากมายเพื่อปรับปรุงและเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขายด้วยเทคโนโลยีในปัจจุบัน แต่ก็ยังไม่ถึงจุดที่จะสามารถแทนที่สัมผัสของมนุษย์ได้ทั้งหมด
กำลังมองหาแพลตฟอร์มเพื่อใช้ AI และเริ่มการซื้อขายอยู่ใช่ไหม? เปิดบัญชีจริงกับ Vantage วันนี้และเริ่มซื้อขายสัญญาซื้อขายส่วนต่าง (CFD) เทรดเดอร์สามารถเข้าถึงโอกาสในการซื้อขายจากการเคลื่อนไหวของราคาในทุกทิศทาง โดยไม่ต้องเป็นเจ้าของสินทรัพย์อ้างอิง
อ้างอิงจาก
- “Knight Capital Says Trading Glitch Cost It $440 Million – The New York Times”. https://archive.nytimes.com/dealbook.nytimes.com/2012/08/02/knight-capital-says-trading-mishap-cost-it-440-million/. Accessed 11 Sept 2023.