• facebook
  • instagram
  • twitter
  • linkedin
  • youtube
  • telegram
การซื้อขายหุ้นแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน: เส้นทางสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและการลงทุน ESG

สารบบ

การซื้อขายหุ้นแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน: เส้นทางสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและการลงทุน ESG

การซื้อขายหุ้นแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน: เส้นทางสู่การเติบโตที่ยั่งยืนและการลงทุน ESG

Vantage Updated by Updated Wed, January 10 02:16

ท่ามกลางความโกลาหลที่เกิดขึ้นในช่วงที่มีการแพร่ระบาดอย่างรุนแรง การปฏิวัติก็เกิดขึ้นอย่างเงียบๆ ตลาดเศรษฐกิจหมุนเวียนซึ่งครั้งหนึ่งเคยไม่มีใครรู้จักมาก่อนมีการจัดการสินทรัพย์รวมเพิ่มขึ้น 25 เท่า

จากเพียง 300 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ตอนต้นปี 2563 กองทุนหุ้นสาธารณะที่อุทิศทั้งหมดให้กับองค์กรณ์ที่เพิ่งเกิดใหม่ 28 เท่า รวมเป็น 9.5 พันล้านดอลลาร์สหรัฐภายในเดือนพฤศจิกายน 2564 [1]

ในขณะเดียวกันปริมาณพันธบัตรทั้งหมดที่ออกเพื่อสนับสนุนโครงการริเริ่มเศรษฐกิจหมุนเวียนก็มีความก้าวหน้าอย่างมาก โดยเพิ่มขึ้นเป็น 37 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ในตอนนั้น [2] ซึ่งรวมถึงพันธบัตรของสหรัฐฯและพันธบัตรที่เชื่อมโยงกับความยั่งยืน

แม้ว่าสาเหตุของความสนใจที่เพิ่มขึ้นอย่างกะทันหันนั้นยังไม่ชัดเจน แต่อาจเกิดจากการเพิ่มขึ้นโดยตระหนักว่า เราไม่สามารถยึดถือโลกของเราต่อไปได้ สิ่งที่ชัดเจนคือความสำคัญของเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน และการยอมรับที่สมควรได้รับของศักยภาพในการปลดล็อกโอกาสทางการเงินใหม่ ๆ ในขณะเดียวกันก็ส่งเสริมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและข้อกำหนดด้านความยั่งยืน

สิ่งที่น่าตื่นเต้นอย่างแท้จริงก็ คือ ผู้ที่ลงทุนในตลาดเศรษฐกิจหมุนเวียนสามารถสนับสนุนประเด็นสีเขียวได้อย่างแท้จริงโดยไม่สูญเสียคุณค่า และอาจเป็นครั้งแรกในการสร้างพอร์ตโฟลิโอที่ปราศจากความขัดแย้งอย่างแท้จริง

ด้วยเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนในที่สุดนักลงทุนก็สามารถตอบสนองความต้องการทั้งทางศีลธรรมและทางการเงินได้อย่างน่าเชื่อถือ ต่อไปนี้คือภาพรวมของคำมั่นสัญญาที่การซื้อขายหุ้นแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

ความสนใจที่เพิ่มขึ้นในเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน

เศรษฐกิจหมุนเวียนเป็นเรื่องเกี่ยวกับอะไร

รูปแบบทั่วไปของการผลิตส่วนใหญ่เป็นกระบวนการทางเดียว โดยที่ทรัพยากรถูกนำมาจากสิ่งแวดล้อมเพื่อสร้างผลิตภัณฑ์ และเมื่อสิ้นสุดวงจรชีวิตผลิตภัณฑ์มักจะกลายเป็นของเสีย

รูปแบบ “การเอาขยะไปสร้างขยะ” ในการสร้างผลิตภัณฑ์เพื่อการบริโภคส่งผลให้โลกขาดแคลนทรัพยากร ขณะเดียวกันก็ผลักดันแนวทางปฏิบัติที่เป็นอันตรายต่อระบบนิเวศ เช่น การทำเหมืองที่ก่อให้เกิดมลพิษต่อสิ่งแวดล้อม

ในทางตรงกันข้ามเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนมองหาวิธีลดการสูญเสียทรัพยากรจากการนำกลับมาใช้ให้มากที่สุด โดยองค์กรพยายามที่จะออกแบบขยะโดยการใช้หลักปฏิบัติด้านความยั่งยืน (การลด การใช้ซ้ำ และการรีไซเคิล) การสร้างวัสดุที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมน้อยลง (เหล็กกล้าคาร์บอนเป็นศูนย์) และการแนะนำรูปแบบใหม่ของการบริโภค (การแชร์ร่วมกันและการเป็นเจ้าของรายบุคคล) [3]

เป้าหมายสูงสุดของเศรษฐกิจแบบหมุนเวียน คือ การผลิตสินค้าและผลิตภัณฑ์โดยไม่ต้องสกัดทรัพยากรใหม่จึงเป็นการรักษาสิ่งแวดล้อมไม่ให้เกิดอันตรายเพิ่มเติม และทำให้เกิดการเกิดใหม่ของภูมิภาคที่เสื่อมโทรม

แต่ความคิดริเริ่มด้านเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนยังสามารถเสนอโอกาสที่สร้างรายได้ เนื่องจากมีหน่วยงานต่างๆ จำนวนมากกำลังสร้างกระแส โดยการขายเสื้อผ้าคาดว่าจะเพิ่มขึ้นเป็นสองเท่าเป็น 350 พันล้านดอลลาร์สหรัฐฯ ภายในปี 2570 และจะเติบโตเร็วอย่างรวดเร็วภายในปี 2573 [4]

การพัฒนานี้ได้ส่งเสริมให้มีการจัดหาเงินทุนเพิ่มขึ้น เพื่อใช้ประโยชน์จากพื้นที่การเติบโตใหม่นี้ โดยกลุ่มบริษัทหรูข้ามชาติ Kering และบริษัทการลงทุน Tiger Global Management EQT ของสวีเดน และแม้แต่ Morgan Stanley ซึ่งได้เข้าร่วมกับ BlackRock ในฐานะหุ้นส่วนของมูลนิธิ Ellen MacArthur ซึ่งเป็นองค์กรการกุศลชั้นนำที่สนับสนุนการหมุนเวียน

เศรษฐกิจหมุนเวียนยังได้รับความสนใจในภาคส่วนอื่นๆ เช่น เนสท์เล่ให้คำมั่นว่าจะบริจาคเงิน 1.2 พันล้านฟรังก์สวิสภายในปี 2568 เพื่อสนับสนุนการใช้แนวทางปฏิบัติด้านการเกษตรแบบปฏิรูปที่ช่วยปรับปรุงสภาพของดิน เพื่อเพิ่มความหลากหลายทางชีวภาพ และลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก [5]

เป็นที่น่าสังเกตว่า ธุรกิจและการจัดหาเงินทุนของภาคเอกชนไม่ได้ดำเนินการด้วยตนเอง กิจกรรมของพวกเขามาพร้อมกับการสนับสนุนนโยบายที่แข็งแกร่งในสหภาพยุโรป ซึ่งถือว่าเศรษฐกิจหมุนเวียนเป็น 1 ใน 6 วัตถุประสงค์ด้านสิ่งแวดล้อมที่เป็นแนวทางทางการเงินที่ยั่งยืน

นอกจากนี้แนวร่วมระดับภูมิภาคที่นำโดยองค์การพัฒนาอุตสาหกรรมแห่งสหประชาชาติ และพันธมิตรอื่นๆ ได้รับการจัดตั้งมื่อเร็วๆ นี้เพื่อสนับสนุนละตินอเมริกาและแคริบเบียนในการเปลี่ยนผ่านสู่เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน

สิ่งสำคัญที่สุดคือ การที่รัฐบาล องค์กร และหน่วยงานสถาบันต่างๆ คำนึงถึงศักยภาพของเศรษฐกิจหมุนเวียน สิ่งนี้จะสร้างโอกาสที่มากขึ้นสำหรับนักลงทุนรายย่อยที่อาจได้รับประโยชน์จากหุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียน

การทำความดีสามารถให้ผลตอบแทนทั้งทางศีลธรรมและทางการเงินได้หรือไม่?

แม้ว่าเราทุกคนต้องการทำในส่วนความยั่งยืน และข้อบังคับที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม แต่แรงจูงใจทางการเงินในการลงทุนก็ไม่ควรถูกละเลย ซึ่งประโยชน์ของนักลงทุนได้รับการพิสูจน์แล้วในการลงทุนแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

ในสมุดปกขาวปี 2021 การศึกษาที่เกี่ยวข้องกับบริษัทจดทะเบียนสาธารณะในยุโรปมากกว่า 200 แห่งจาก 14 อุตสาหกรรม แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์แบบผกผันที่ชัดเจนระหว่างระดับของบริษัทที่นำแนวปฏิบัติแบบหมุนเวียนมาใช้  และความเป็นไปได้ที่จะผิดนัดชำระหนี้ซึ่งหมายความว่า หุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนมีความสามารถเพิ่มขึ้นในการคืนผลตอบแทนที่ปรับตามความเสี่ยงให้กับนักลงทุนได้มากขึ้น ทำให้พวกเขาลงทุนในระยะยาวได้อย่างปลอดภัย

กลยุทธ์เศรษฐกิจหมุนเวียนสามารถลดความเสี่ยงในการลงทุนได้โดย

  • แยกการเติบโตทางเศรษฐกิจออกจากการใช้ทรัพยากร
  • รูปแบบธุรกิจที่หลากหลาย
  • ช่วยให้คาดการณ์การเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบ และความต้องการของลูกค้าได้ดีขึ้น
  • ลดความเสี่ยงจากการหยุดชะงักของห่วงโซ่อุปทาน
  • ควบคุมความผันผวนของราคาทรัพยากร

ด้วยเหตุนี้ เศรษฐกิจหมุนเวียนจึงได้รับการยอมรับจากนักลงทุนมากขึ้นว่า เป็นโอกาสในการสร้างมูลค่าที่บรรลุเป้าหมายที่เกี่ยวข้องกับสภาพภูมิอากาศและความท้าทายระดับโลกอื่นๆ

หุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนสามารถตอบสนองทั้งความต้องการทางศีลธรรมและทางการเงินสำหรับนักลงทุนทุกคนได้เป็นอย่างดี

เป็นที่ของนักลงทุนสามารถในการค้นหาโอกาสในซื้อขายหุ้นเศรษฐกิจหมุนเวียนที่ร้อนแรงที่สุด

  1. ETF เศรษฐกิจแบบหมุนเวียน

    1. ผู้ลงทุนสามารถมองหา ETF ที่มุ่งเน้นไปที่เศรษฐกิจหมุนเวียนได้ ไม่ว่าจะทั้งหมดหรือบางส่วนก็ตาม โดยสนับสนุนให้ ETF เหล่านี้เปิดตัวโดยนักลงทุนจากสถาบันชั้นนำ รวมถึง BlackRock, Goldman Sachs และ PNB Paribas
    2. ETF เศรษฐกิจหมุนเวียนที่มีอยู่ ได้แก่ :
      • กองทุนเศรษฐกิจหมุนเวียน BlackRock, BFG
      • VanEck Circular Economy UCITS, ETF
      • กองทุนเปิด HSBC GIF Global Equity Circular Economy
      • ผลงานตราสารทุนที่มีผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมทั่วโลกของ Goldman Sachs
      • BNP Paribas Easy ECPI ผู้นำเศรษฐกิจแบบวงกลม UCITS ETF EUR
      • RobecoSAM Circular Economy Equities D USD
  2. พันธบัตรองค์กรเศรษฐกิจหมุนเวียน

    1. นักลงทุนที่ชื่นชอบตราสารหนี้อาจต้องการพิจารณาพันธบัตรองค์กรเศรษฐกิจหมุนเวียน ซึ่งพันธบัตรดังกล่าวเปิดตัวเพื่อให้ทุนแก่โครงการริเริ่มเศรษฐกิจหมุนเวียน และอาจเกี่ยวข้องกับโครงการที่เกี่ยวข้อง เช่น ความยั่งยืนและ ESG
    2. บริษัทชั้นนำบางแห่งที่มีพันธบัตรองค์กรเศรษฐกิจหมุนเวียนที่โดดเด่นได้แก่::
      • Alphabet 
      • Daiken Corporation 
      • Henkel 
      • Owens Corning 
      • PepsiCo 
      • Phillips
    3. โดยทั้งหมดแสดงให้เห็นว่า จำนวนกองทุนตลาดเอกชนที่มุ่งเน้นเศรษฐกิจหมุนเวียนจะเพิ่มขึ้นเป็น 30 กองทุนระหว่างปี 2559 ถึง 2563
  3. หุ้นของบริษัทที่มีคะแนน ESG แข็งแกร่ง [6,7,8]

    1. วัตถุประสงค์หลักหลายประการของเศรษฐกิจหมุนเวียนก็สะท้อนมาจากโครงการริเริ่มที่คล้ายกัน เช่น ESG เนื่องจากนักลงทุนที่ใช้เศรษฐกิจหมุนเวียนจะพบตัวเลือกที่น่าเชื่อถือในหมู่บริษัทที่ได้คะแนน ESG ชั้นนำ แม้ว่าจะไม่ใช่บริษัทที่ดำเนินธุรกิจเศรษฐกิจหมุนเวียนอย่างเคร่งครัดก็ตาม
    2. ตัวอย่างของบริษัทดังกล่าวได้แก่:
      • Microsoft (Software and technology) 
      • CBRE Group (Real estate) 
      • Hasbro (Consumer durables) 
      • Toppan, Inc (Commercial services) 
      • Nestle (Food) 
      • L’Oreal (Cosmetics) 
      • Unilever (Household consumables) 
      • Applied Materials (Semiconductors)
  4. บริษัทที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเศรษฐกิจหมุนเวียน

    1. แน่นอนว่านักลงทุนอาจพิจารณาการซื้อขายหุ้นของบริษัทที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับเศรษฐกิจหมุนเวียน
    2. เนื่องจากลักษณะและขอบเขตของเศรษฐกิจหมุนเวียนที่กว้างขวาง โดบนักลงทุนจึงไม่ขาดทางเลือกในการเลือก เช่น:
      • บริษัทรีไซเคิลและจัดการขยะ
      • ผู้ผลิตพลังงานสะอาด
      • บริษัทจัดการทรัพยากรน้ำ
      • บริษัทเกษตรกรรมยั่งยืน
      • จำหน่ายสินค้าแฟชั่นและตลาดมือสอง
      • แพลตฟอร์มการแชร์ร่วมกัน

ทำความดีในการลงทุนด้วยการซื้อขายหุ้นแบบเศรษฐกิจหมุนเวียน

เนื่องจากเศรษฐกิจแบบหมุนเวียนยังคงได้รับแรงผลักดัน โดยนักลงทุนจะมีวิธีที่น่าเชื่อถือและมีความหมายมากขึ้นในการลงทุน แม้ว่าแนวคิดนี้ไม่ใช่เรื่องใหม่ เนื่องจาก ESG เป็นผู้ริเริ่มแนวคิดนี้เป็นครั้งแรก แต่เศรษฐกิจแบบหมุนเวียนจะช่วยเร่งให้เกิดการสร้างความยั่งยืนให้เป็นบรรทัดฐานอย่างไม่ต้องสงสัย

นักลงทุนในช่วงแรกจะได้รับประโยชน์จากข้อเสนอต่างๆ และอาจพบว่าตนเองเพลิดเพลินกับสิ่งเหล่านี้

อ้างอิงจาก

  1. “Financing the circular economy – Ellen MacArthur Foundation”. https://www.ellenmacarthurfoundation.org/topics/finance/overview. Accessed 5 Dec 2023.
  2. “How investors are taking advantage of developments within the circular economy – Capital Monitor”. https://capitalmonitor.ai/sector/consumer/how-investors-are-taking-advantage-of-developments-within-the-circular-economy/. Accessed 5 Dec 2023.
  3. “What is a circular economy? – Ellen MacArthur Foundation”. https://www.ellenmacarthurfoundation.org/topics/circular-economy-introduction/overview. Accessed 5 Dec 2023.
  4. “Resale Report 2023 – ThredUp”. https://www.thredup.com/resale/. Accessed 5 Dec 2023.
  5. “Regenerative agriculture – Nestle”. https://www.nestle.com/sustainability/nature-environment/regenerative-agriculture. Accessed 5 Dec 2023.
  6. “2023 ESG Top-Rated Companies – Sustainalytics”. https://www.sustainalytics.com/corporate-solutions/esg-solutions/top-rated-companies. Accessed 5 Dec 2023.
  7. “IBD’s 100 Best ESG Companies For 2023 – Investor’s Business Daily”. https://www.investors.com/news/esg-stocks-list-of-100-best-esg-companies/. Accessed 5 Dec 2023.
  8. “Leading consumer goods companies in the ESG theme – Just Food”. https://www.just-food.com/data-insights/top-ranked-consumer-goods-companies-in-esg/. Accessed 5 Dec 2023.

Disclaimer: The material provided here has not been prepared in accordance with legal requirements designed to promote the independence of investment research and as such is considered to be a marketing communication. Whilst it is not subject to any prohibition on dealing ahead of the dissemination of investment research we will not seek to take any advantage before providing it to our client. No representation or warranty is given as to the accuracy or completeness of this information and therefore it shouldn't be relied upon as such. Any research provided does not have regard to specific financial situations, needs or investment objectives. Vantage accepts no responsibility for any use that may be made of these comments and for any consequences that result. Consequently, any person acting on it does so entirely at their own risk. We advise any readers of this material to seek professional advice where necessary. Without the approval of Vantage, reproduction or redistribution of this information isn't permitted.